blog-tag
ใครเป็นต้นคิดขึ้นมานะ ช่างฉลาดเหลือเกินเชียว
เหตุใดใยจึงต้องมี blog-tag
เมื่อเก้าวันที่แล้วเจ้าหญิงเพี้ยนได้เกิดขึ้นที่นี่
ไม่มีใครเลยที่เคยเห็นเธอ ไม่มีใครซักคนรู้จักเธอ
และเธอก็ไม่เคยรู้จักใครมาก่อน
เวลาที่ “ใครซักคน” บอกเล่าเรื่องของเค้าให้กับเรา
มักจะเป็นจุดเริ่มต้นของ คำว่า “เพื่อน”
คนๆนั้นจะไม่ใช่คนอื่นแล้ว เค้าดูจะเป็น “เพื่อน” ของเรา
และบางทีก็มากจนต้องมีคำวิเศษณ์ต่อท้าย “เพื่อนซี้ ” “เพื่อนรัก” “เพื่อนเก่า”
เพราะเรื่องราวนั้น ทำให้เพื่อนคนเดิมนั้น พิ เ ศ ษ มากขึ้นอีก
เอาละ!
เรามาเป็นเพื่อนกันมั้ย
1.
ฉันมีตุ๊กตาตัวโปรดอยู่ 2 ตัว
ตัวแรกเป็นตัววอมแบดตัวลูก เกิดที่ออสเตรเลีย โดนแยกจากครอบครัวแต่เด็ก ทำให้ก้าวร้าว และซึม
เลยมีแค่ 2 อารมณ์ คือ โกรธตาขวางตลอดเวลาและ ง่วงตลอดเวลา
ชื่อ “เมนีอู”
ตัวสองเป็น chicken little ตัวก๊อปชัดชัด แต่ก๊อปปี้ได้ไม่เหมือนเอามากมากกกก
เกือบดูไม่ออกว่าเป็น chicken little และทำหน้าตาเพี้ยนตลอดเวลา
เลยได้ชื่อว่า “เจี๊ยบเพี๊ยน”
2.
ฉันยังไม่มีลายเซ็นเป็นของตัวเอง
และชอบคิดว่าเวลาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องมีลายเซ็นเป็นของตัวเอง
แต่ก็พยายามแล้ว แต่ยังไม่ชอบซักที
เลยเป็นแค่ลายมือไม่ใช่ลายเซ็น
ทั้งที่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เด็กแล้วสิ
3.
ฉันอาบน้ำเร็วมาก
มีครั้งนึง น้องชายกำลังแปรงฟันอยู่หน้าห้องน้ำ
ฉันเดินสวนเข้าไปเพื่ออาบน้ำ
และเดินออกมา ตอนที่เค้ายังคงแปรงฟันอยู่เลย
น้องมองหน้าแบบเหยียดๆนิดหน่อย
4.
ฉันอยากเข้าแข่งรายการ reality ซักครั้งหนึ่งในชีวิต
แต่คิดว่าคงไม่ใช่ AF เพราะขอออกตัวว่าร้องเพลงไม่เก่ง
หวังว่าจะมี reality ที่เราพอจะเล่นได้แบบไม่อายเพื่อนๆ และคนรู้จัก
5.
และฉันเพิ่งมีเพื่อนblog คนที่ 5 เมื่อ 2 วันที่แล้วเอง
ดีใจมาก เพราะจะได้เขียน blog-tag ซักที
lonesomesometime , pokpok , flotation on waves , girlfineday ,bact’
นี่ไง ! เพื่อน 5 คนแรกของฉันเอง
หมายเหตุ:
1. กติกาของ blog-tag คือบอกเล่าเรื่องของตัวเอง 5 ข้อ และแท็กต่อไปอีก 5 รายนะจ๊ะเพื่อนๆ
2. เจ้าหญิงเพี้ยนได้รับการ tag มาจากนิ้วกลม (เป็นเกียรติอย่างสูงเลยค่ะ) ขอบคุณค่ะนิ้วกลม
ป.ล. ขอเพิ่มเองได้มั้ยว่าคนที่มา comment ก็ต้องบอกเรื่องราวตัวเองเหมือนกัน
อ๊ะอ๊ะ อย่าเพิ่งหนีสิ… กดcommentเลย
” ฉันก็อยากมีเพื่อนคนที่ 6 นะ”
มกราคม 16, 2007 ที่ 7:31 pm
6 … ไม่กลัวเพื่อนเจ็บเหรอ ? 😛
มกราคม 17, 2007 ที่ 2:31 am
ถึงเจ้าหญิงเพี้ยน..
พี่เป็นคนนึงที่ไม่มี blog เป็นของตัวเอง
แต่ก็แอบไปป่วนเปี้ยนตามบ้านคนอื่นๆมาหลายบ้านแล้ว
จากอิทธิพลของ blog tag นั่นแหละ
สนุกดีได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆอีกเยอะเลย
แม้จะผ่านทางอากาศก็ตาม
ตอนนี้ยังคิด 5 เรื่องของตัวเองไม่ออกเลย
เอาไว้กลับไปทำการบ้านมาก่อนนะ
แล้วเจอกัน…เพื่อนใหม่ของฉัน…
มกราคม 17, 2007 ที่ 2:36 am
ต้องเขียน 5 เรื่องเลยหร๋อเจ้าหญิง ต้องใช้เวลาคิดนิดนึ่งเดี๋ยวกลับมา
เท่าที่อ่านดูเราก็มีอะไรเหมือนกันบางอย่างนะ (โดยเฉพาะข้อ 2.3)
มกราคม 17, 2007 ที่ 4:54 am
คนที่ 9 …เลขสวยนะ เลขสวย 😀
มกราคม 17, 2007 ที่ 5:11 am
คนที่ 10 มาแว้ววววว ^_^
มกราคม 17, 2007 ที่ 9:47 am
แล้ว ‘เมนีอู’ จะมีลูกกับ ‘เจี๊ยบเพี้ยน’ มั้ยอะ?
😀
มกราคม 17, 2007 ที่ 11:02 am
มาแล้วมาแล้ว 5 เรื่อง (ที่ไม่เป็นเรื่อง) ของตัวข้าพเจ้าเอง
1. ภาพทรงจำช่วงอายุน้อยสุดที่พอนึกออก
จำได้ว่าประมาณอายุ 5 ขวบ เป็นช่วงที่ย้ายบ้าน (ข้ามจังหวัด)
เจอะเพื่อนข้างบ้านชื่อจุ๋มเหมือนกัน
เพื่อป้องกันความสับสน ผู้ใหญ่ก็เลยเรียกชื่อตามไซส์ว่า…
จุ๋มเล็ก กับจุ๋มใหญ่ เราก็เลยได้รับชื่อหลังมาโดยปริยาย
เนื่องจากอวบระยะสุดท้ายมาตั้งแต่เด็กๆ
ถึงตอนนี้ จุ๋มเล็ก มีลูกให้ดูแลหลายคนแล้ว
แต่ จุ๋มใหญ่ ยังไม่มีลูกเป็นของตัวเองก็เลยต้องคอยดูแลลูกของคนอื่นไปก่อน
2. วันหนึ่งเมื่อตอน ป.4
จำได้ว่าเป็นวันประกาศผลสอบตอน ป.4
ได้ที่ 8 ในบรรดานักเรียนทั้งห้อง 18 คน
ยังจำภาพที่พ่อจับมานั่งคุยกัน ให้ตั้งใจเรียนมากขึ้นกว่านี้
เป็นอีกหนึ่งวันที่ตัวเองฟูมฟายมากๆ
แต่เหตุการณ์วันนั้นทำให้เราตั้งใจเรียนมากขึ้น มากขึ้น
ลำดับที่ได้ตัวเลขเลยลดลงจนกระทั่งถึง 1 ในที่สุด
ทุกวันนี้ก็คงต้องขอบคุณแรงกระตุ้นนั้นที่ทำให้ตัวเองมาถึงยังจุดๆนี้ได้
3. เหตุผลที่ไม่โปรดตุ๊กตา
ตุ๊กตากับผู้หญิงน่าจะเป็นสิ่งที่คู่กัน เพราะน่ารักทั้งคู่ ใช่เปล่า สาวๆทั้งหลาย
แต่แล้วก็มีเหตุให้สาวคนนี้ไม่โปรดตุ๊กตาขึ้นมาซะงั้น
วันเกิดปีหนึ่งเพื่อนๆ ให้ตุ๊กตา ‘หมูสีชมพู’ เป็นของขวัญ
ตอนแรกชอบมาก น่ารักสุดๆ
แต่แล้วมีเหตุให้น้องหมูเปื้อนฝุ่นไปทั้งตัว
เอาไปทำความสะอาด (ซัก) แล้วไม่คงสภาพน่ารักเหมือนเดิม
จากวันนั้นความน่ารักของตุ๊กตาก็หมดไปจากใจเป็นเวลานานมาก
ตอนนี้กำลังพยายามทำใจให้กลับมาชอบอยู่
4. ผู้ชายที่ชะตาต้องกัน
ไม่รู้เป็นไงผู้ชายที่วนเวียนในชีวิตมักจะเป็น G-type
หรือเรียกง่ายๆว่าผู้ชายสีม่วงน่ะ
แต่คบแล้วแฮปปี้ดีนะ คุย(เม้าส์)กันมันส์มาก
แถมรู้ใจเป็นที่สุด แค่มองตาก็ get แล้ว
แอบรู้สึกเซ็งนิดนึงว่าประชากรเพศชายในโลกนี้ก็น้อยกว่าเพศหญิงตั้งเยอะ
เมื่อเป็นแบบนี้ก็หายไปพ่วงสองน่ะ
แต่เข้าใจค่ะ (กัดฟันนิดนึง)
5. ชีวิตวัยรุ่นที่ขาดหายไปของฉัน
มีพี่ที่รู้จักกันพูดเอาไว้ว่า ‘ยัยจุ๋มมันกำลังชดเชยชีวิตช่วงวัยรุ่นอยู่’
เนื่องจากช่วงวัยรุ่นต้องหมกหมุ่นอยู่กับตัวหนังสือ(เรียน)มากกว่าคณะอื่นๆ
อะไรที่ไม่ได้ทำตอนนั้นก็เอากลับมาทำตอนนี้
ตอนที่อายุก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ตอนต้น เฮ้อ!
ทั้งการเป็นแฟนคลับของศิลปินหลายๆแขนง อาทิ นักร้อง นักแสดง นักเขียน
อยากจะทำอะไรที่แปลกแตกต่างจากการใช้ชีวิตแบบเดิมๆบ้าง
ซึ่งตอนนี้ก็กำลังทำอยู่ไง กำลังเดินทางตามหาเพื่อนแปลกหน้า
เพื่อมาเปิดมุมมองของตัวเองให้กว้าง ยาว ลึก เพิ่มขึ้น
ชีวิตก็มีสีสันมากขึ้นด้วย ไม่ต้องจมอยู่แต่กับการเกิด แก่ เจ็บและก็ตาย
ครบห้าข้อแล้วนะ คงต้องขอบใจเจ้าหญิงฯ ที่เปิดโอกาสให้เราได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น และที่สำคัญคงต้องฝากไปขอบใจเจ้าของบ้านพักฝากอากาศด้วย ที่ทำให้ได้เดินทางสะเปะสะปะไปมาออกจากบ้านพักฯ เพื่อที่จะไปทำความรู้จักกับใครต่อใครเพิ่มขึ้นอีก เพื่อเป็นกำไรชีวิตอีกอย่างนึง
มกราคม 17, 2007 ที่ 12:47 pm
โอ้โหพี่จุ๋มคิดเร็วดีจริง ขอพักแปล๊บนึงเดี๋ยวกลับมาใหม่นะ
มกราคม 17, 2007 ที่ 1:06 pm
คิดเร็วๆนะญาญ่า รออ่านอยู่ว่าจะมามุขไหน
แล้วเราจะมีอะไรอะไรที่ซ้ำกันบ้างเปล่า
มกราคม 17, 2007 ที่ 1:38 pm
มาแล้น…ห้าเรื่องของข้าพเจ้า
1.เป็นโรคเหงาหลับ
ปกติจะว่างไม่ได้ ไม่กินก็ต้องคุยค่ะ แต่อย่าปล่อยให้ข้าพเจ้าอยู่คนเดียวนาน ๆ จะเกิดอาการง่วงนอน นอนได้ทุกที่ ทุกเวลา อันนี้มันเรียก โรคเหงาหลับ รึเปล่าคะ
2.yayaa เด็กดี
โตมาจนป่านนี้ กินเครื่องดื่มผสม alcohol ทีไรเป็นเรื่องทุกที ยังไงเหรอค่ะ ไม่ต้องอะไรมากหรอกแค่ 5% ก็เริ่มหน้าแดง อารมณ์ดีหัวเราะเอิ้กอ้ากหลังกินได้ครึ่งแก้ว พอหมดแก้วถึงกับหลับคาที่เลยล่ะคะ
3.เคยถูกตำรวจจับ
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เคยถูกตำรวจจราจรจับ หามปีกเข้าไปในป้อม โทษฐานเดินซุ่มซ่ามหกล้มกีดขวางการจราจรกลางสี่แยกรัชดา เป็นยังไงบ้างเหรอคะ ก็ทั้งเจ็บทั้งชา (หมายถึงหน้าน่ะ) ไม่เชื่อก็ลองดูได้นะคะ
4.yayaa นักเล่านิทาน
ปกติก็เป็นชอบพูดชอบคุย แต่หนักไปทางพูดมาก พูดพล่าม พูดไม่รู้เรื่องซะมากกว่า เวลาดูหนังเรื่องไหนสนุกก็อยากเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง ปัญหามีอยู่ว่าถ้าเป้นหนังตลกละก็จะเล่าไม่จบสักที ทำไมเหรอค่ะ เพราะจะเล่าไปขำไป หรือไม่ก็พอใกล้ถึงตอนที่จะขำ(คือว่า….ยังไม่ทันได้เล่า) ข้าพเจ้าก็จะหัวเราะจนท้องแข็งไม่สามารถเล่าต่อไปได้ แต่ยังไงก็ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่งนะคะเพราะสุดท้ายทุกคนก็ขำอยู่ดี เจ้าหญิงเพื่อนอยากให้พี่ yayaa เล่าให้ฟังซักเรื่องมั๋ยคะ
5.ที่มาของเด็กเรียน
เพื่อน ๆ บอกว่าข้าพเจ้าเป็นเด็กเรียนเพราะ “อุบัติเหตุ” สาเหตุเพราะสมัยม.ต้นเคยประสบอุบัติเหตุครั้งที่รุนแรงที่สุดในชีวิตจนเกิดอาการสลบไม่รู้สึกตัวไปหลายชั่วโมง และต้องหยุดเรียนนาน 2 อาทิตย์ คุณหมอบอกว่า “สมองช้ำ” แต่เพื่อน ๆ บอกว่าสงสัยหมอจะวินิจฉัยผิด น่าจะเป็น”สมองกลับ”ซะมากกว่า เพราะจากเคยสอบได้ที่ 20 กลับมาสอบได้ที่ 1 เรื่อยมา (เอ…รึว่าจะเป้นที่มาของความเพี้ยนนี้ด้วยค่ะ????)
…. จบแล้วจ้า…..
มกราคม 17, 2007 ที่ 5:57 pm
เอ่อ… bact’
ปอนด์
pattararanee
ขี้เกียจเขียนรึเปล่าค๊ะ
หรือว่าจะเคยtagเพื่อนแล้ว ยังไงทำlinkไป ได้เลยนะค๊ะ
จะตามไปอ่านแน่นอนเชียว
พี่jummdcu กับพี่yayaa
มีข้อเหมือนกันเลย ตรงที่สอบได้ที่ 1 เหมือนกัน
อูฮู อยากมีข้อนี้บ้างจังอะ
ส่วนเหตุผลที่ไม่โปรดตุ๊กตา
ตลกมากกก!!! เค้าเรียกว่าเหตุผลรึเปล่าน้า พี่จุ๋มใหญ่
อ้อ! ต้องขอบคุณพี่จุ๋มเรื่องโปสการ์ดด้วยค่ะ
ปลื้มมากเลย เพราะเป็นการได้โปสการ์ดจากคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน
พออ่านของพี่yayaaจบเหมือนเห็นตัวตนของพี่ชัดขึ้น
ข้อ 1 2 3 4 5
เป็นคนๆหนึ่งขึ้นมาเลย
คิดว่าเมนีอู กับเจี๊ยบเพี้ยน
คงไม่มีลูกด้วยกันค่ะ
เพราะนิสัยต่างกันมาก นึกภาพออกว่า
เมนีอูคงรำคาญเจี๊ยบเพี้ยนแย่เลย
มกราคม 17, 2007 ที่ 6:52 pm
เจ้าหญิงเพี้ยนเห็นพี่ yayaa แล้วเหรอค่ะ
เป็นไง สวยมั๊ย….อิอิ
มกราคม 18, 2007 ที่ 2:07 am
ถึงเจ้าหญิงเพี้ยน…
พี่กำลังสงสัยตัวพี่เองอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่โปรดตุ๊กตา
อาจจะเรียก อารมณ์องุ่นเปรี้ยวก็ได้มั้ง ?
เพราะคนเคยชอบอะไรมากๆ พอมีเหตุการณ์บางอย่างที่อาจจะพลาดเพราะเรา ก็เลยไปลงที่วัตถุสิ่งของซะงั้น
แต่จริงๆตอนนี้ก็เริ่มกลับมาชอบแล้วล่ะ
แต่จะใช้วิธีชอบตุ๊กตาตัวไหนมากเป็นพิเศษ
ก็จะหยิบยื่นเป็นของขวัญให้คนอื่นแทน
แล้วเฝ้ามองความสุขผ่านตัวเค้า
เอ๊ะ! หรือเราเป็นโรคจิตไปซะแล้ว
แล้วเจ้าหญิงฯ สนใจตุ๊กตาจากพี่หรือเปล่า
ตอนนี้พี่หมายตาเอาไว้หลายตัวเลยนะ
มกราคม 18, 2007 ที่ 4:23 am
จ้า จ้า มาเขียนแล้วจ้าตามสัญญา
คือคิดอะไรเกี่ยวกับตัวเองแบบที่ไม่มีใครรู้ไม่ค่อยออกน่า
เอาล่ะ พยายามละกัน
1.เคย(หรืออาจยัง)เป็นโรคจิต
เราเป็นสาวน้อยที่เรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาตลอด ดังนั้นสภาพแวดล้อมของเราจึงคุ้นเคยแต่กับผู้หญิง ตอนที่อยู่มัธยม (เพิ่งแตกเนื้อสาวว่างั้นเถอะ) ผู้ชายเนี่ย นอกจากพ่อ พี่ชายและญาติๆ เราไม่มอง ไม่อยากพูด ไม่อยากเข้าใกล้ด้วยเลย เพราะเขิน ไม่ชินและไม่รู้จะทำตัวยังไง (ตลกมะ) ทีนี้พอเข้ามหา’ลัยเราดันได้บัดดี้เป็นผู้ชาย ซึ่งต้องมีการ take care บัดดี้ด้วย เรางี้เครียดจนปวดหัวอยู่บ่อยๆ ปีแรกๆเราก็ไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายเลย แต่พอเรียนไปเรื่อยๆ เราก็เริ่มปรับตัวได้ และมาสนิทๆ กันตอน 2 ปีสุดท้ายนี่เอง สาเหตุหนึ่งที่ปรับตัวได้ อาจเป็นเพราะ พวกมันปฏิบัติกับเราอย่างเท่าเทียมกับมัน(ไม่มีหรอกสุภาพบุรุษ เพราะมันหมดไปตั้งแต่ปี 1) ด่ากันทุกวัน ก็เลยรู้ไส้กันไป
2. เคย hot
(น่าอายจังข้อนี้) สืบเนื่องจากข้อ 1 มันจะมีปรากฏการณ์แปลกๆตอนมัธยม (ถ้าใครเคยเรียนหญิงล้วน ชายล้วน คงเข้าใจ) เราจะได้ดอกไม้โดยเฉพาะช่วงวันวาเลนไทน์ บ่อยจากน้องๆ และรุ่นเดียวกันในโรงเรียน! แต่เราไม่ได้เป็นทอมนะ ให้ตายสิ (ขอยืนยันว่าเรากรี๊ดผู้ชาย) แต่ที่ตลกคือคนที่เคยกรี๊ดๆ เราตอนมัธยม เดี๋ยวนี้ก็มีแฟน(เป็นผู้ชาย) หรือไม่ก็แต่งงานกันไปหมดแล้ว
3.เกือบจมน้ำตาย
เราว่ายน้ำไม่เป็น แต่ชอบอะไรที่เป็นน้ำๆ เช่น ทะเล แม่น้ำ ฯลฯ บ้านในฝันต้องอยู่ริมคลอง อะไรเทือกนี้ กีฬาทางน้ำอะไรที่มี เราก็มักพยายามลองให้หมด ทีนี้ trip รุ่นตอนปี 5 เราก็ไปว่ายน้ำดูปะการัง(ว่ายที่ผิว ใช้ สน็อกเกิ้ล) ดูไม่น่ามีปัญหาอะไรนะ ถ้าเสื้อชูชีพของเราไม่หลุด และเราห่างจากที่ยืนถึงได้ก็เกือบ 200 เมตร! ตอนนั้นเองที่เราเข้าใจถึงความทุกข์ทรมานของคนที่ใกล้จมน้ำตายที่โศกนาฏกรรมสึนามิว่ามันเป็นยังไง และขอบคุณเพื่อนรักของเราด้วยที่ช่วยเหนี่ยวผมเราขึ้นมาได้ แต่งานนี้ไม่ทำให้เราเข็ดอะไรที่เป็นน้ำเลย และก็ยังคงว่ายน้ำไม่เป็นเช่นเคย เรื่องนี้นอกจากกลุ่มเพื่อนซี้ก็ไม่มีผู้ใดรู้อีกเลย
4. addicted
เราชอบฟังเพลง+ดนตรีมากๆ ขอให้โลกนี้มีดนตรีเหอะ จำได้ว่าเคยร้องไห้อย่างหนักทั้งคืนจนไปเรียนไม่ได้เพราะนึกว่าจะชวดไปดูคอนเสิร์ตวงต่างประเทศวงหนึ่งที่ชอบมากๆ (เรียกว่ายอมขาดเรียนดีกว่าขาดใจ)
เราติด ลิปตันไอซ์ที มากๆๆ วันหนึ่งขอให้ได้กินอย่างน้อยขวดหนึ่งเหอะ ยิ่งสมัยเรียนมหา’ลัยเนี่ย เพื่อนไม่ต้องถามกันเลยว่าอยากได้น้ำอะไร (ล.ต.อ.ท. เท่านั้น) เหอ เหอ อย่าเพิ่งเลิกผลิตนะคะ
5.เรื่องสุดท้ายแล้ว คิดสิ คิดๆๆๆ อ้ะ เอาเรื่อง love love ไปอีกเรื่องละกัน
เราเคยแอบชอบรุ่นน้องคนหนึ่งที่อายุน้อยกว่า 1 ปี (กินเด็ก หุ หุ) เรียนคนละคณะ ปีนั้นเค้าเรียนเป็นปีสุดท้ายและเป็นอาทิย์สุดท้ายด้วย เค้าไม่เคยรู้เลยว่าเราชอบเค้าเพราะเราไม่แม้แต่จะรู้จักกันเลย เจอหน้ากันก็เฉยๆ ไม่ได้แสดงทีท่าอะไร(ทั้งที่ในใจงี้ มันบีบๆแทบตาย) แต่เพราะว่ามันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นหน้ากัน เราเลยตัดสินใจเขียนจดหมายสารภาพรัก (น้ำเน่ามากๆ) แต่ด้วยความที่กลัวว่าเค้าจะสืบรู้ว่าใครเป็นเจ้าของจดหมาย เราก็เลยเขียนเป็นภาษาอังกฤษซะ ยังไม่พอเราให้เพื่อนสนิทส่งต่อจดหมายเป็นทอดๆ จนไปถึงมือเพื่อนผู้ชายคนสุดท้ายที่สนิทกันให้เอาไปให้น้องเค้าที่หอชาย พอถึงตอนนั้น น้องคนที่เราชอบเค้าก็ได้แต่จับตาดูผู้หญิงชั้นปีเดียวกับเราด้วยความสงสัยเท่านั้น เฮ้อ ป่านนี้ก็คงยังไม่รู้มั้งว่าใครคือคนที่เขียนจดหมายอันนั้นให้ และคงไม่รู้ว่าได้ทำให้ผู้หญิงบ้าๆ บอๆ คนหนึ่งตกหลุมรักและอกหักจากเขาโดยที่ไม่รู้อะไรด้วยเลย
….เรื่องเล็กๆ จากเราก็เป็นเช่นนี้แล
มกราคม 18, 2007 ที่ 8:11 am
แอบอ่านของคุณปอนด์ด้วย สนุกดี
โดยเฉพาะข้อ 5…555 คงไม่ว่ากันนะคะ
มกราคม 18, 2007 ที่ 8:31 am
มาแอบทำความรู้จักเพื่อนใหม่ผ่านหน้าจอเพิ่มอีกคนแล้ว
เรื่องของ…คุณปอนด์…มีบางส่วนบางเสี้ยวอารมณ์ที่คล้ายกัน
เราอยู่โรงเรียนสหศึกษาแต่มีเพื่อนมาจากโรงเรียนหญิงล้วน
เข้าใจบุคลิกส่วนตัวของเด็กหญิงล้วนค่ะ อายขนาดไม่กล้าใส่ขาสั้นเลยล่ะ แต่พอวันเวลาผ่านไปก็ถูกกลืนเข้ากับเพื่อนๆโดยไม่รู้ตัว
เป็นคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นเหมือนกัน แต่ก็ชอบไปทะเลค่ะ
เพื่อนๆบอกว่าชอบไปนั่งทำมิวสิกฯ เพราะไม่ค่อยกล้าลงน้ำ โดยเฉพาะถ้าลึกเกินหน้าอก
มีเพื่อนเคยพยายามหัดว่ายน้ำให้ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะความกลัว (น้ำ) ของยัยจุ๋ม
เป็นคนที่ชอบฟังเพลงมากๆเหมือนกัน แต่จะเน้นศิลปินไทยอ่ะ
เป็นแฟนคลับของนักร้องดูโอคู่นึง จนบัดนี้ต่างฝ่ายต่างสลายโต๋ไปแล้ว เสียดายๆ
เคยขนาดว่าไปดูคอนเสิร์ต countdown ของคนโปรดที่กทม.
แล้วบึ่งรถกลับไปทำงานเป็นระยะทาง 200 กว่า กม.หลังจบคอนเสิร์ต เหนื่อยๆ แต่สุขใจ
มกราคม 18, 2007 ที่ 10:58 am
โห ยาวมากกกก
ของเค้ามี blog-tag แล้วจ้า
มกราคม 18, 2007 ที่ 11:30 am
คุณ yayaa ไม่ว่าหรอกค่ะ ตอนนี้ยังคิดอยู่เลยว่า ตอนนั้นแหมทำไปด้ายยยย…:D
คุณจุ๋ม เข้าใจความรู้สึกคุณดีเลยค่ะ เรื่องนักร้องที่โปรดปราน อ่านแล้วประทับใจจังที่คุณอุตส่าห์ขับรถไกลตั้ง 200 กม.เพื่อมาดูคนโปรด ถ้าเราเป็นนักร้องคนนั้น รู้ยังงี้เราคงปลื้มใจไปหลายเดือน
ยินดีที่ได้รู้จักค่า
มกราคม 18, 2007 ที่ 12:38 pm
ขอบคุณเจ้าหญิงเพี้ยนนะคะที่ทำให้เราได้มีโอกาสรู้จักกันมากขึ้น
เห็นกันชัดอย่างนี้ เจอกันที่ไหนอย่าลืมทักทายกันนะคะ
คุณปอนด็
ความจริงเราก็มีอะไรเหมือนกัน 2 อย่างคือ มีช่วงชีวิตที่เป็นนิสิตนักศึกษานานกว่า 4 ปี อีกอย่างคือ ชอบกิน ล.ต.อ.ท เหมือนกัน กินทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 2 ขวด….อิอิ
มกราคม 18, 2007 ที่ 5:27 pm
ถึงพี่jummdcu
อารมณ์องุ่นเปรี้ยว?
ไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนเลยอะ จริงๆนะพี่จุ๋ม
เมื่อวานเพิ่งพูดกับพ่อคำนี้เอง เพราะไปกินเมนูอาหารอะไรซักอย่าง
ซึ่งเป็นชื่อที่ได้ยินมาตั้งแต่เกิด ก็เลยตื่นเต้นมาก
พี่จุ๋มถามว่า… สนใจตุ๊กตามั้ย สนใจค่ะ
แต่พี่จุ๋มเก็บไว้ดีกว่าค่ะ
เผื่ออาจจะกลับมารักมันเหมือนเดิม
ว่าไปแล้วก็เหมือนคนอกหักเลยอะ
รึเปล่า
คุณปอนด์พิมพ์ได้ประทับใจจริงๆ ประทับใจความยาวค่ะ
ว่ามั้ยค่ะ พี่yayaa พี่จุ๋ม
แต่มีคนเห็นด้วยแล้วน้า คุณpattararaneeไง
ข้อ 5 ขำมาก ถ้าเป็นปย.ในหนังสือล่ะก็
เจ้าหญิงเพี้ยนจะขีดเส้นใต้ตรงที่
“แต่ด้วยความที่กลัวว่าเค้าจะสืบรู้ว่าใครเป็นเจ้าของจดหมาย เราก็เลยเขียนเป็นภาษาอังกฤษซะ ”
แหม ทำไปได้
ถ้าเขียนภาษาเกาหลีได้ คงทำแล้วรึเปล่า คุณปอนด์
ชอบมากอะ ขอแซวหน่อยเถอะ
ฮิฮิ
มกราคม 18, 2007 ที่ 5:41 pm
จริงๆต้องการจะสื่อถึง…องุ่นเปรี้ยว มะนาวหวาน..น่ะ
พอดีเอามาเชื่อมโยงกับอารมณ์
ก็เลยจะงงๆนิดหน่อย
พูดแล้วตอนนี้ก็งงๆตัวเองเหมือนกันนะนี่
มกราคม 18, 2007 ที่ 6:25 pm
ถ้าคุณปอนด์เขียนจดหมายรักเป็นภาษาเกาหลี น้องชายคนนั้นเค้าคงไม่ต้องเสียเวลาสืบแล้วละค่ะ…..หุหุ
มกราคม 19, 2007 ที่ 3:53 pm
เหอ เหอ รู้สึกจะตกตะลึงในความยาวกันยกใหญ่ อย่างนี้ล่ะนะถ้าให้คิดจะคิดไม่ค่อยได้ แต่พอพิมพ์แล้วมันไหลลื่น เพราะภาพเหตุการณ์มันยังชัดเจนอยู่
แหม อะไรกันจ๊ะสาวๆ รู้สึกข้อ 5 เราจะป๊อบนะ ไม่เคยแอบปิ๊งใครกันบ้างหรอคะ เรื่องอย่างนี้ให้หัวใจนำทางไปก็พอ (แหวะ) แต่ไม่รู้จะนำไปในทางที่ผิดรึเปล่าเนี่ยเรา สรุปเค้าเลยไม่รู้ว่าใครชอบอยู่ดี ก๊วนเพื่อนยังถามเลยว่า แกทำยังงี้แล้วได้อะไรฟะ 😀
มกราคม 20, 2007 ที่ 2:56 am
สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมเยียน Blog กะเค้าเหมือนกัน
แบบว่า (มือใหม่) อ่ะค่ะ เพื่อนๆน่ารัก แล้วก็รู้สึกจะอบอุ่นกันจังนะคะ
มีเรื่องเกี่ยวกับตัวเองมาฝากด้วยค่ะ เริ่มกันเลย
1. ความกลัว : เป็นคนกลัวเลือดค่ะ ประเภทแผลสด อุบัติเหตุ ไม่ต้องเรียกให้ช่วย เพราะว่าเห็นแล้วจะมีอาการ วิงเวียน(อาการเตือน) หลังจากนั้นจะหน้ามืด เป็นลม *ครั้งล่าสุด ทำมีดบาดนิ้วตัวเอง ระหว่างหาพลาสเตอร์พันนิ้วอยู่ๆ หมดสติไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาหน้าชาๆ แนบอยู่กับพื้น สรุปว่าหัวฟาดพื้นอย่างแรง
2. ความฟลุ้ค : สมัยตอนอยู่โรงเรียนหญิงล้วน(อ้าว ..นี่ก็อีกคน) เคยได้รับเลือกให้เดินแบบ(รุ่นจิ๋ว) ถัดมาไม่นานก็ได้รับเลือกแสดงเป็นแบบ(รุ่นหมวย) สมัยเรียนมหาลัย มีเอเจนซี่ติดต่อให้ไปเป็นพริตตี้ (อันนี้ไม่รับค่ะเพราะรู้ว่าตัวเองไม่พริตตี้)ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากความสวย สูง หรือว่าหุ่นดี แต่อย่างใด แต่เกิดมาจากความฟลุ้คทั้งสิ้น
3. ความเชื่อ : ไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลู่…มีเหตุการณ์แปลกๆหลายอย่าง แนวซิกเซ้นท์แต่เพราะเป็นคนที่ไม่เชื่อในเรื่องราวแนวๆนี้ พยายามหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ หลักการต่างๆมาประกอบ…ซึ่งบางที มันก็หาคำตอบหรือเหตุผลไม่ได้…
4. ความรัก : อกหักตลอด แต่ไม่กลัวที่จะเริ่มต้นใหม่ค่ะเพราะว่าความรักเป็นบทเรียนที่ดี …และยังคงเชื่อในความสวยงามของความรัก
5. ความฝัน : ไม่รู้ว่าได้รับอิทธิพลที่หาต้นตอไม่ได้ เมื่อใครๆตามว่าอยากไปไหน ตั้งแต่จำความได้ทำไมไม่รู้ต้องตอบว่า อังกฤษ อาจเป็นเพราะว่าชอบเวลาที่ฝนตกและมีบางคนบอกไว้ว่า อังกฤษเป็นประเทศที่มีฝนตกตลอดปี (ซึ่งจริง) โตๆมาความฝันก็เป็นจริง อาจเกินจริงไปหน่อย เพราะว่ากะว่าจะมาแค่ปีเดียว
ตอนนี้ปาเข้าไปปีที่หกแล้ว…ฮ่าๆ
รู้จักกันมาขึ้นแล้ว เชิญแวะเยี่ยมทักทายกันได้ที่นี่ค่ะ
http://cher3155.wordpress.com/
เชอรี่
มกราคม 21, 2007 ที่ 8:18 am
คุณเชอรี่ ยินดีที่ได้รู้จักเพิ่มอีกคน เราเคยเข้าไปอ่าน+ เม้นต์บล็อกของคุณแร้วนะ 😀
ยินดีต้อนรับหญิงล้วนอีกคน แต่อ่านๆ แล้วเราว่า เชอรี่ ไม่น่าฟลุ้คนะ ตามสถิติของเรา 90% ของคนที่ชื่อ เชอรี่ จะน่ารักน้า..อิ อิ
มกราคม 21, 2007 ที่ 1:58 pm
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
มกราคม 22, 2007 ที่ 10:25 am
ขอบคุณมากเลย เจ้าหญิง
จะพยายามเขียนครับผม
ยากจัง งง งง
แหะ แหะ
มกราคม 22, 2007 ที่ 11:24 am
มีเพื่อนเพิ่มแล้ว
เย้เย้ ทุกคนตบมือกันใหญ่เลย
ทุกคนนี่มีประมาณ7 เองนะ
555
คุณเชอรี่เขียนเรื่องของตัวเอง
โดยแบ่งจากความ…ทั้งหลาย
คิดเก่งจัง เพราะเราก็คิดตั้งนานตอนเขียน
ว่าจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ดีมั้ย และยังไง
แต่ก็มาจบตรง เขียนไปเลยดีกว่า
กลัวเลือดเหมือนกัน
แต่ต้องเยอะๆนะ
หรือแบบถ้าเล่าเรื่องหวาดเสียวให้ฟัง
หรือเห็นภาพสยองๆ(รถชน เลือดเต็มถนน) ก็จะยืนแล้วโหวงๆ
ขาอ่อน แต่ทำเป็นไม่เป็นไรอยู่
นั่นแหละ
แถมถ้าดูวงเวียนชีวิตแล้ว
จะกินข้าวไม่ลงด้วย
เพราะมันหดหู่ สงสาร น่ะ
เลยพาลเป็นงี้เลย
ยินดีต้อนรับค่ะ
แล้วจะแวะไปรังของคุณเชอรรี่นะ
มกราคม 23, 2007 ที่ 6:01 am
ในชีวิตนี้เป็นลมแค่ครั้งเดียว
เนื่องจากไปลุ้นเพื่อนตอนที่หัดเจาะเลือดกัน
เพื่อนโดนจิ้มไปซะห้าเข็ม ก็ยังไม่ได้เลือด เพราะหาเส้นไม่เจอ
อาจจะเป็นเพราะตัวเองก็เพิ่งถูกดูดเลือดไป
พอลุ้นๆ ตื่นเต้นๆ ก็เลยหน้ามืดเป็นลมซะงั้น
นึกแล้วยังขำๆตัวเองอยู่เลย
มกราคม 24, 2007 ที่ 5:23 pm
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ …ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ
ตอนนี้เป็นช่วงเก็บข้อมูลดิบ ซึ่งจริงๆแล้วใน Blog
อยากให้เป็นเรื่องราวที่ตรงกับเทศกาลของทาง
อังกฤษ หรือเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ
ขอบคุณสำหรับการทักทาย และเยี่ยมเยียน
แล้วเจอกันนะคะ
เชอรี่
กุมภาพันธ์ 7, 2007 ที่ 10:49 am
จะช้าไปมั๊ยค่ะ
คือว่าเพิ่งได้มีโอกาสเข้ามาอ่าน
แต่ยังอยากเป็นเพื่อนใหม่อีกคน
1. ตอนประถม ชอบใสกางเกงในสีแดงค่ะ แต่ตอนนี้เลิกสนิท เหตุเพราะ มีอยู่วันนึง เด็กๆต้องตั้งแถวตอนเช้าเพื่อเดินไปเคารพธงชาติ ตอนแปดโมง แต่กว่าคุณครูจะจับปูใส่กระด้งอยู่ได้ก็นานน่าดู ด้วยความข้าพเจ้าเป็นเด็กขี้ลืม ตอนนี้โตมาแล้วก็ยังเป็นผู้ใหญ่ขี้ลืมอยู่ ก็ลืมค่ะ ลืมรูดซิบกระโปรง แล้วที่ร้ายกว่านั้น เพื่อนเห็นแล้วทัก แถมเป็นเพื่อนผู้ชายอีกต่างหาก
“เธอ … วันนี้ใส่กางเกงในสีแดงมาหรอ”
หน้าซีดค่ะ ไม่รู้จะทำไง แถมไถไปจนสีข้างเป็นแผลว่า
“ไม่ใช่ เราใส่กางเกง ขาสั้นสีแดงทับมา”
“ไม่ใช่สักหน่อย ก็เราเห็นว่าเป็นกางเกงในนะ” ยังค่ะ เพื่อนยังไม่เลิก มันยังสักต่อ
แถมเรียกเพื่อนมาดูอีก อายมาไม่รู้ทำยังไง ได้แต่เถียงว่าเป็นกางเกงขาสั้น
หลังจากนั้นก็ไม่คิดจะใส่กกน.สีแดงเลยค่ะ
2. ชอบสีน้ำเงินค่ะ ดูเป็นผู้หญิงโหดมั๊ย เพราะเคยไปเที่ยวทะเลที่เขาตะเกียบกับครอบครัวตอนประถม(อีกแล้ว) แล้วก็ไปเดินเล่นที่ชายหาดค่ะ เจอก้อนหินสีน้ำเงินอยู่ตามชายหาด สวยมากค่ะ มันสะท้อนแสงสีน้ำเงินระยิบระยับ ดูโดดเด่นอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าที่มือสนิท และท้องทะเลที่เงียบสงบ พี่สาวที่เดินไปด้วยกันบอกว่ามันเรียกว่าเพียส(ไม่รู้เขียนถูกป่าว) อยากเก็บมาค่ะแต่ไม่กล้า กลัวมันไม่เหมือนเดิม หลังจากนั้นเลยชอบสีน้ำเงินค่ะ ทุกครั้งที่ท้องฟ้ามืดไม่มีแสง ฉันก็คิดว่าอย่างน้อยก็คงสีแสงเล็กๆ แสงสีน้ำเงินนั้นอยู่
ป.ล. เคยกลับไปที่เดิมเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ไม่เคยเจอแล้วค่ะ (เสียดายจัง)
3. ฉันเป็นคนที่เข้าได้ดีกับคนชรา(คนแก่)นะค่ะ เวลาเห็นแล้วอยากคุย เพราะกลัวเค้าจะเหงา แถมจะคุยกันถูกคออยู่เรื่อย เวลาไปไหนเพื่อนๆจึงมักให้คอยtake care บรรดาปู่ย่าตายายอยู่เสมอ
4. ฉันตกหลุมรักค่ะ หลงรักbear with อย่าหมดใจ ชอบมากค่ะ หมีอ้วนขนปุย แต่ต่อมาก็ปันใจมาหลงรัก เรื่องเล็ก(ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นหญิงสาวนักขายขนมปัง) แต่ด้วยความบังเอิญค่ะ ต้นเรื่องมาจากคุณ วงทนงศ์ (พี่โหน่งมาแว้ว…)เหมือนกัน เลยไม่ได้กลายเป็นวันทอง สองใจไป
5. เป็นคนที่ได้รับฉายาเยอะมาค่ะ จำไม่หมด
ตอนเด็กที่บ้านเรียกว่า “หัวนก”เพราะตอนเกิดไม่ค่อยมีผม เหมือนหัวนก ต่อมาโตหน่อย กลายเป็น “ไอ้เตี้ย” เพราะตัวเตี้ยสุดในบ้าน
พอเข้าประถมโดนเรียกว่า”มาช้า”(เป็นน้องๆมาช่าค่ะ) ไม่ใช่ว่าหน้าคล้ายแต่ประการใด แต่เพราะแม่ค่ะ แม่ตัดผมซอยสั้นทรงคุณมาช่าที่ดังในอดีต
ต่อมามัธยมต้น โดนเรียกว่า “เป็ด” เพราะตอนน้อยเจ้าขุนทองกำลังดัง แล้วเพื่อนเห็นว่าเราหน้าละม้ายคล้ายคลึง กับน้องเป็ดน้อยในเจ้าขุนทอง และเป็นฉายาที่ที่ถูกใช้มากที่สุด จนตอนี้ใคร ๆ ก็เรียกว่าเป็ด
ต่อมาเรียนมหาลัยโดนเรียกว่าป้า, ยาย, หมวย, อุ้ยคำเนื่องจากเป็นผู้หญิงที่อายุมาสุดในรุ่น แล้วก็กลายมาเป็นคุณพริ้ม เพราะนั่งหลับค่ะ ตอนเรียน แหม..ตามันจะหลับ แต่ใจมันอยากเรียนอยู่ เลยออกมาเป็น พริ้มๆ แบบนี้แหละค่ะ
ปัจจุบันทำงานก็ได้อีกแล้วค่ะ แกะดำ เพราะชอบอำพวกพี่ๆ และสุดท้ายก็น้องเด็ด เพิ่งได้สดๆร้อนๆวันนี้เลยค่ะ เนื่องจากเป็นโอเด็ด ภาคอาบแดดเยอะไปหน่อย
ยาวไปมั๊ยค่ะ
ขอเป็นเพื่อนใหม่เพิ่มอีกคนนะค่ะ
กุมภาพันธ์ 7, 2007 ที่ 5:59 pm
ไม่คิดว่าจะคนมาแล้วนะเนี่ย
แปลกใจ+ดีใจไปด้วย
ยินดีต้อนรับค่ะ
ชอบสีน้ำเงิน
ยังไม่เคยได้ยินผู้หญิงชอบสีน้ำเงินเลย
แปลกดี
เพราะแต่ก่อนเราจะมีนิสัยชอบถามคนอื่นๆว่า
“ชอบสีอะไร”
แล้วคำตอบก็จะไม่เคยมีผู้หญิงชอบสีน้ำเงิน
ดูมีเสน่ห์ยังไงไม่รู้
ชอบที่มาของการชอบด้วยอะ
เราชอบสีม่วงล่ะ
เป็นมั้ย ความรูสึกที่เหมือนกับว่า
ดีใจที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
เหมือนถ้ามีคนถามว่า
“มีไอดอลมั้ย”
“อาหารจานโปรด”
“คติประจำใจ”
…
และอื่นๆ
ถ้าตอบได้จะรู้สึกดีมากๆเลย
เหมือนเรามีจุดยืนน่ะ
กุมภาพันธ์ 9, 2007 ที่ 2:42 pm
เย้ มีเพื่อนเพิ่มอีกคน และเขียนได้ยาว(กำลังดี) เป็นเพื่อนกันแล้ว เย้ ๆ
เห็นด้วยกะหญิงเพี้ยนจ้ะ เราก็ชอบที่มาของการชอบสีของคุณ ฤดูฝน(หรือเปล่า?) มาก ท่าทางจะเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่น่าประทับใจนะคะ
ตอนแรกคิดว่าผู้หญิงที่ชอบสีน้ำเงินดูจะเป็นผู้หญิงเท่ๆ ขรึมๆ แต่พอมาอ่านเหตุผลของคุณแล้ว ยอมรับค่ะว่านึกถึงฉากในหนังเกาหลีขึ้นมากระทันหัน นั่นเพราะเราว่าเรื่องของคุณโรแมนติกดีค่ะ 😀
เราก็ชอบสีม่วง เหมือนกันนะ อันที่จริงเราไม่มีสีอะไรที่แน่นอน เห็นแล้วปิ๊งเป็นใช้ได้ แต่จะหนักไปทาง ม่วง ชมพู แดง บางครั้ง ดำ แต่ช่วงนี้หนักไปทางสีดำ เอาไว้ปกปิดหุ่นที่ดูจะเริ่มนุ้ยทุกทีแล้ว 5555
หญิงเพี้ยน say :เป็นมั้ย ความรูสึกที่เหมือนกับว่า
ดีใจที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
คิดเหมือนกันเลย เราก็รู้สึกกลัวๆอยู่นะเนี่ย ว่าจะเป็นคนไม่มีจุดยืนไปแล้ว! แต่ช่างเหอะ จะเอาอะไรกะชีวิต (เพี้ยนๆ)ของเราเนอะ เหอ เหอ
(ยาว again :D)
กุมภาพันธ์ 12, 2007 ที่ 1:45 am
ดีใจที่มีเพื่อนเพิ่มแทนเจ้าหญิงฯ ด้วยนะจ๊ะ
เมื่อพูดถึงเรื่องความชอบ
ถ้าเรื่องสี…สีฟ้า สีเขียว สีชมพู
ถ้าเรื่องไอดอล…เฉลียง พี่จิก(ประภาส)
ถ้าเรื่องนักร้อง…มีเยอะ แต่ที่ชอบมากหน่อย พีซเมคเกอร์
ถ้าเรื่องอาหารจานโปรด…อะไรก็ได้ที่มีคะน้าเป็นส่วนประกอบน่ะ
ถ้าเรื่องคติประจำใจ…whatever will be will be
มีอีกตั้งมากมายที่ชอบและไม่ชอบ
เขียนไปเดี๋ยวจะยาวซะเปล่า
ปล…ฤดูฝนชอบสีน้ำเงินเหมือนคนโปรดเราเลย อิอิ
กุมภาพันธ์ 12, 2007 ที่ 10:32 am
ญ.เพี้ยน, ปอนด์, jummdcu หวัดดีจ้าทุกๆคน
เชื่อว่าถ้าทุกคนได้เห็นหินเล็กๆพวกนั้น
ต้องตกหลุมรักเหมือนเราแน่ๆ
สีที่ชอบ…….เห็นจะเป็นสีน้ำเงินแน่ๆ
ไอดอล……..ชอบbear with(พี่โหน่ง วงศ์ทนง)
นักร้อง………มิกกี้ค่ะ ผู้ชายเสียงแหบแต่ร้องเพลงแสนจะโรแมนติก
อาหารจานโปรด……..โปรดเป็นชีวิตจิตใจเห็นจะเป็นไอศครีมค่ะ
คติประจำใจ………ความหวังทำให้เราประสบความสำเร็จค่ะ
กุมภาพันธ์ 13, 2007 ที่ 2:14 pm
หวัดดี everybody เด้อค่ะ^_^
สีที่ชอบ สีฟ้าคับบบ
ไอดอล พี่แขกกะนิ้วกลม
อาหารจานโปรด อืมม กินเด็กค่ะเหมือนน้องปอนด์ 5555
จริงๆ แล้ว โปรดไอติม เหมือนกันเลยฤดูฝน
คติประจำใจ เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด เดินตามพี่แขกแล้ว
สบายๆ 55555
ฯลฯ
กุมภาพันธ์ 13, 2007 ที่ 2:24 pm
แหมนึกว่าจะได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์ กินเด็ก เหมือนกันซะแร้ว หุหุ(ล้อเล่นจ้า ล้อเล่น)
เรื่องของกินกะไอดอล ตอบยากจัง ชอบเยอะแยะ
แต่ที่แน่ๆ ลิบตันไอซ์ทีออกรสชาติใหม่แล้วนะ ต้องลองๆๆ
คุณ yayaa ทราบแล้วเปลี่ยน ;D
กุมภาพันธ์ 13, 2007 ที่ 2:36 pm
เห็นไอดอลของเอี้ยงแล้ว ขออมยิ้มหนึ่งที
ไอดอลข้างบนของเราคงเป็นเมื่อช่วงเราวัยรุ่น จนถึงตอนนี้
ถ้าขอแถมน้องนิ้วฯเข้ามาอีกคนตอนช่วงเรา…คงไม่ว่ากันนะ
ส่วนพี่แขกขอคิดอีกทีนะ ว่าพอจะเป็นไอดอลได้เปล่า
แต่ถ้าเป็นไอเดียคงพอได้มั้ง อิอิ
เรื่องกินเด็กก็มีบ้างเป็นบางที พอหอมปากหอมคอน่ะ 😀
กุมภาพันธ์ 14, 2007 ที่ 4:23 am
เอ….
สีที่ชอบ…….เห็นจะเป็นสีเขียว สีฟ้า ตามมาด้วยชมพู
ไอดอล……..อาจารย์วันดี (เป็นอาจารย์ท่านหนึ่ง ถ้ารู้จักจะรักและชื่นชมในตัวท่านค่ะ ไม่เชื่อลองถามพี่จุ๋ม อิอิ )
นักร้อง………ปั่น ค่ะ (ไม่ค่อยอยากบอกเพราะกลัวเค้ารู้ว่ารุ่นไหน)
อาหารจานโปรด……..ก๋วยเตี๋ยว (อันนี้ชอบมากมาก)
คติประจำใจ………ทำวันนี้ให้ดีที่สุดค่ะ
ฝากขอบคุณ ปอนด์ด้วยนะค่ะสำหรับข่าวลิบตันไอซ์ทีออกรสชาติใหม่ จะต้องตามไปลองแน่นอน ตอนนี้เรากินได้สองรสค่ะคือรสดั่งเดิมกับรสชาเขียว (ไม่ชอบกินรสพีชเลยจริง ๆ)
สงสัยจะเข้าข่ายแฟนคลับลิปตันไปซะแล้ว
เจ้าหญิงคงอนุญาตนะคะ
😀
กุมภาพันธ์ 14, 2007 ที่ 6:13 am
yayaa อาจารย์วันดีพี่ก็ประทับใจมากเลย
เคารพและนับถือ ขอเพิ่มอาจารย์ในใจพี่อีกท่านนะ
คืออาจารย์เพทาย เห็นชื่อก็รู้แล้วว่าอาวุโสมากๆ
ถ้าชีวิตนี้เป็นได้อย่างอาจารย์คงจะดี
เหมือนบ้านเจ้าหญิงฯจะเป็นแหล่งฝากข้อมูลข่าวสารของเพื่อนบ้านเลยเนอะ
หวังว่าเจ้าของบ้านจะอนุญาตเช่นกันจ้า
กุมภาพันธ์ 14, 2007 ที่ 9:29 am
คิดว่าพี่จุ๋มจะบอกว่าอาจารย์ในใจคืออาจารย์ไพศาลซะอีก
เห็นพูดถึงทุกวัน
ไม่ได้อยู่ในใจหรอกเหรอค่ะ
อิอิ 😀
กุมภาพันธ์ 14, 2007 ที่ 9:32 am
ในใจเจ้าหญิงเหรอ
ไม่บอกก็รู้
อิอิ
คุณปอนด์ค่ะถ้ายังมีเด็กหลงเหลือก็บอกบ้างนะคะ
อยากกินเด็กแทนลิปตันบ้าง
😀
กุมภาพันธ์ 14, 2007 ที่ 1:48 pm
โอ้โห..โดนญาญ่าเผาอย่างแรง
คนนั้นน่ะคิดถึงทุกครั้งที่หายใจอยู่แล้วละ ฮิ้ว
รู้สึกอายตัวเองจริงๆเลย
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 1:41 am
โอ๊ะ โอ คุณ yayaa เราก็ชอบรสออริจินอล(เลมอน) รสเดียวเหมือนกันจ้า (ขอใช้พื้นที่คุยกันก่อนนะเจ้าหญิง หวังว่าคงไม่ว่ากัน 😀 )
เฮ้อ เรื่อง เด็ก ช่วงนี้ยังซบเซา เพราะยังไงๆ ปอนด์ก็ยังไม่สามารถหาใคร(และไม่มีใครมาหา) ที่เหมือน ‘น้องคนนั้น’ ได้เลย ฮือๆ อันนี้เข้าข่ายรักเดียวใจเดียวมั้ยเนี่ย (คงไม่ใช่)
กฎการกินเด็ก ข้อที่ 1 ต้องเลือกอย่างระมัดระวัง เพราะกระดูกอ่อน อาจติดคอได้ 55555
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 1:55 am
กฎข้อที่สอง…ต้องอย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น ด้วยรึเปล่า
เดี๋ยวงูจะเลื้อยหนีไปซะก่อน
ใครคิดกฎข้ออื่นๆได้อีก ลองเอามาแชร์กันดีกว่า หนุกๆ
“กฎของการกินเด็ก”
อันนี้เพศไหนก็ออกความเห็นได้นะจ๊ะ 😀
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 6:01 am
ปอนด์ถามหน่อยซิทันรู้จักน้องสัตวะที่เรียนปี 5 หรือปี6 หรือเปล่า
พอดีพี่รู้จักกับน้องสาวคนนึงชื่อน้องเบียร์น่ะ
ไม่แน่นะโลกอาจจะกลมก็ได้
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 3:25 pm
ปอนด์สนิทกับน้องปี 6 ตอนนี้มากกว่าน่ะค่ะ(เพราะรุ่นติดกัน) ปี 5 สนิทกันเป็นบางคน นึกไม่ค่อยออก บางทีรู้จักหน้าแต่ลืมชื่อก็ได้มั้ง ปอนด์ เป็นคนขี้ลืมอยู่ด้วยนะสิคะ เดี๋ยวถามเพื่อนให้นะคะ 😀
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 5:52 pm
“คุณปอนด์ค่ะถ้ายังมีเด็กหลงเหลือก็บอกบ้างนะคะ
อยากกินเด็กแทนลิปตันบ้าง”
ปย.นี่ ขำมากๆ
เจ้าหญิงเพี้ยนหัวเราะลั่นบ้านเลยอะ
ตอนแรกๆก็ลิปตัน
ตอนหลังๆก็กินเด็ก
แต่พอมารวมกัน ขำ จริงจริงเลยคิดจริงๆใช่มั้ยค๊ะพี่yayaa
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 6:06 pm
ยินดีเป็นแหล่งข่าวสาร
เพราะเพลิดเพลินกับการอ่าน
พี่ๆคุยกัน
แทบอยากจะอ่านแทนเขียนแล้ว เพราะมันขำด้วย
“กฎของการกินเด็ก”ข้อ 3
ห้ามกินมูมมาม ต้องค่อยๆละเมียดละไม
(เด็กอาจจะตกใจ วิ่งหนีไป อดกินได้)
สีที่ชอบ…….สีม่วงทุกเฉด
ไอดอล……..-
นักร้อง………sofa / two days ago kids
อาหารจานโปรด…แบบทั่วไป ก็เส้นใหญ่เยนตาโฟต้มยำแห้ง
แบบเจาะจงก็…บาร์บีคิวจจานร้อน ร้านinterที่สยาม
…ส้มตำปูม้า ที่ร้านส้มตำข้างทางว่องวานิช
…เส้นเล็กต้มยำ แถวกาญจนาภิเษก
อยากให้ชีวิตนี้มีมื้อนึงที่บนโต๊ะอาหาร มีอาหารจานโปรดทั้งหมดที่เราชอบอยู่บนนั้น
ตายตาหลับแล้ว อืม สุขใจ
คติประจำใจ………เชื่อในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่เชื่อ
…….ชีวิตของเราสะท้อนความเชื่อของเรา
……..เราจะเป็นคนหนึ่งที่มีคุณธรรม
กุมภาพันธ์ 16, 2007 ที่ 9:32 am
เย่เย่เย่
เราตอบแท็กแล้วนะ ไปดูเร็ว
http://girlfineday.blogspot.com/2007/02/give-me-5.html
อย่าว่ากัน ที่ช้านะจ๊ะ
กุมภาพันธ์ 16, 2007 ที่ 2:29 pm
กฎการกินเด็กข้อที่ 4
ท่องไว้ว่า ‘อย่าใจร้อนเป็นอันขาด’ ต้องปล่อยให้ ‘เด็ก’ เติบโตบ้าง แต่ก็ต้องคอยสอดส่องอยู่เสมอ 5555555
พี่จุ๋ม น้องเบียร์นี่ปี 5 ป่ะคะ รู้สึกปี 6 เนี่ยเหมือนไม่มีใครชื่อเบียร์นะเนี่ย
เดี๋ยวถาม ‘โทรโข่ง’ รุ่นให้น้า
เจ้าหญิง คิดกฎข้อ 3 ได้ไงเนี่ย นึกว่า ‘โปร’ มาเองนะเนี่ย เหอ เหอ
กุมภาพันธ์ 16, 2007 ที่ 6:53 pm
ใช่, เจ้าเพี้ยนดูจะโปรมากเลยนะเรื่อง ‘กินเด็ก’ เนี่ย
ตอบบ้าง
สีที่ชอบ: เทา
ไอดอล: Madoka Osawa
นักร้อง: Oasis
อาหารจานโปรด: คอหมูย่าง, บาร์บีคิวจานร้อนอินเตอร์ก็อร่อยดี
(อร่อยเวลามีคนกินด้วย หุหุ)
คติประจำใจ: อื่นๆ อีกมากมาย, Let it be.
ความเชื่อล่าสุด: ทุกชีวิตล้วนเป็นอิสระ (กระทั่งน้องเอมี่)
ปล.อย่ากินเด็กมากนัก เดี๋ยวอ้วน!
😀
กุมภาพันธ์ 17, 2007 ที่ 9:03 am
ดีใจจัง
มี 53 Responses to “เมื่อฉันมีเพื่อนครบ5คน”
แล้วค่ะหญิงเพี้ยน
เดี๋ยวเราอาจจะมี 100 responses ในไม่ช้า
ตื่นเต้นไหมค่ะ
😀
กุมภาพันธ์ 17, 2007 ที่ 9:45 am
ยินดีที่ได้รู้จักกันค่ะ เน๋เน๋
เราก็เป็น แฟน oasis เหมือนกัน!
ปล.อดไม่ได้ ก็เด็กมันยั่ว 555555555
กุมภาพันธ์ 17, 2007 ที่ 2:50 pm
จริงด้วย…
เรามาแข่งกับบ้านโน้นทำสถิติกันดีกว่า
บ้านโน้นฟลาเนอร์พากันเดินเรื่อยเปื่อยไปเกือบสองร้อยก้าวแล้ว
บ้านนี้ก็เดินทางผ่านครึ่งร้อยมาแล้วนะ
เอ้า เรามาฮุย-เล-ฮุย กัน 😀
ปอนด์..เบียร์อาจจะปีห้าก็ได้ รู้สึกจะรหัสปี45
ไม่เป็นไร ถ้าหาไม่เจอ แค่รู้สึกว่าโลกมันกลมน่ะ
ไม่น่าเชือว่าการเป็นแฟนคลับนักร้อง+นักเขียน
จะทำให้พี่มาเจอเด็กคณะและมหา’ลัยเดียวกัน ถึงสองคน
ถ้าอยากคุยกับ “คนคอเดียวกัน” ร่อนจดหมายอากาศไปได้
ที่ jumtus@yahoo.com จ้า
ฝากบอกนิ้วกลมผ่านบ้านหลังนี้ว่า..
นอกจาก “ผมลิขิต” ให้มาเจอตัวหนังสือของนิ้วกลมแล้ว
ยังลิขิตให้เส้นทางของคนหลายๆคนมาตัดกันในวันนี้ด้วย
ขอบคุณที่ทำให้มีเพื่อนเพิ่มอีกหลายๆคนนะ 😀
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 12:00 pm
รวบรวม “กฎการกินเด็ก” ระลอกแรก…
ข้อ 1… ต้องเลือกอย่างระมัดระวัง เพราะกระดูกอ่อน อาจติดคอได้
ข้อ 2… ต้องไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น เดี๋ยวงูจะเลื้อยหนีไปซะก่อน
ข้อ 3… ห้ามกินมูมมาม ต้องค่อยๆละเมียดละไม ไม่งั้นเด็กอาจจะ
ตกใจ วิ่งหนีไป อดกินได้
ข้อ 4… อย่าใจร้อนเป็นอันขาด ต้องปล่อยให้เด็กเติบโตบ้าง แต่ต้อง
คอยสอดส่องอยู่เสมอ
ข้อ 5… อย่ากินเด็กมากนัก เดี๋ยวจะอ้วน!!
ใครมีไอเดียอะไรเพิ่ม ก็มาเติมกันได้นะ หนุกดีหนุกดี 😀
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 3:12 pm
ตื่นเต้นจัง100responses
สู้สู้
ถ้าถึง100จริงๆละก็
กลัวเด็กทั้งหลายจะตกอยู่ในอันตรายของ
พี่jummdcu พี่yayaa และคุณปอนด์
ข้อ 6 เลือกเด็กที่บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา เพราะจะกินได้อย่างไม่ลำบากนัก
กุมภาพันธ์ 19, 2007 ที่ 3:16 am
โอ้โห พี่จุ๋ม ขอบคุณมากๆ ค่ะที่ช่วยรวบรวม กฎการกินเด็ก ให้ดูกันได้ง่ายๆ
สงสัยจัง ว่าการที่ comment นี้ของบล็อคหญิงเพี้ยนไม่ค่อยมีผู้ชายเป็นเพราะกฎพวกนี้รึเปล่า 55555555555
ตอนนี้คิดกฎเพิ่มยังไม่ออก ถ้าออกปุ๊บ เดี๋ยวแวะมาปั๊บเลยนะ
ปล. หญิงเพี้ยน ท่านแสดงความ genius ออกมาอีกแล้วนะ 😀
กุมภาพันธ์ 19, 2007 ที่ 3:27 am
ลืมบอกๆ เพื่อนคนนึง (เป็นผู้ชาย) อ่านบล็อคหญิงเพี้ยนแล้วพูดว่า
‘ น่าเสียดาย ที่ผู้หญิงคนนี้มีแฟนแล้ว’
หญิงเพี้ยน เสน่ห์แรงจริงๆๆๆๆๆ ขอบอก 5555555555
(ท่าทางเค้าจริงจังนะ พูดจริงๆ)
ปล.แฟนของหญิงเพี้ยนอย่าโกรธนะจ๊ะ
กุมภาพันธ์ 19, 2007 ที่ 5:03 am
อยากช่วยคิดทฤษฎี “การกินเด็ก” อยู่เหมือนกันค่ะ
แต่คิดไม่ออกจริง ๆ
สงสัยต้องแอบลองภาคปฏิบัติดูก่อน
อิอิ 😀
กุมภาพันธ์ 19, 2007 ที่ 5:05 am
เอ…ว่าแต่หัวข้อนี้เปลี่ยนชื่อเป็น
การกินเด็ก ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะนี่…
😀
กุมภาพันธ์ 19, 2007 ที่ 2:15 pm
5555555 ++++
เอิ๊ก..
(สำลักเด็ก)
😀
กุมภาพันธ์ 19, 2007 ที่ 2:18 pm
น้องปอนด์ค่ะ อย่ากินมุมมามค่ะ
ถ้าเหลือเยอะอย่าลืมพี่นะคะ…ชักจะหิวแล้ว 😀
กุมภาพันธ์ 20, 2007 ที่ 11:54 am
สงสัยว่าเราจะมาทันกินเด็กมั่งมั้ยน้อ
กุมภาพันธ์ 20, 2007 ที่ 1:43 pm
พี่เอี้ยง ยังทันๆ …>>> ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น 5555555
เอิ๊ก สำลักกระดูกอ่อนอีกที
กุมภาพันธ์ 20, 2007 ที่ 2:43 pm
น้องปอนด์ค่ะ
มีเด็กตัวอย่างให้ชิมก่อนไหมค่ะ…อิอิ
😀
กุมภาพันธ์ 20, 2007 ที่ 2:49 pm
มาบอกข่าวจ้า
และแล้วน้องปอนด์ก็ซิวตำแหน่ง
เม้นฟลาเนอร์อันดับ 200 ไปครอง
(เป็นเพราะคนบางคนสละสิทธิ์หรอกนะ :D)
บ้านนี้ก็ออกเดินกันมา 70 ก้าวแล้ว
มาลุ้นกันต่อดีกว่เนอะ
เจ้าของบ้านมาช่วยลุ้นด้วยนะ
กุมภาพันธ์ 20, 2007 ที่ 2:50 pm
แก้คำ : ออกเดินกันมาเกือบ 70 ก้าวแล้ว
กุมภาพันธ์ 20, 2007 ที่ 4:54 pm
เอ่อ…กะว่าจะมาช่วยคุย ช่วยตะลุย 100
แต่หนูๆคุยเรื่องกินเด็ก
ลุงเห็นจะไม่ถนัดกิน
ก็แค่อยากชิมเป็นบางครั้ง
ค่อยชิมค่อยละเลียด
จะได้มีให้ชิมไปนานๆ
กุมภาพันธ์ 20, 2007 ที่ 5:12 pm
ตอบเรื่องนี้บ้างดีกว่า
สีที่ชอบ: เขียว, น้ำเงิน, เทา (หลายใจแต้ๆ)
ไอดอล: เจ้าชายสิทธัตถะ, ท่านนิ้ว…
(ตอนนี้กำลังฟีเว่อร์ยิ่งกว่าดารา จุ๊ จุ๊ ห้ามบอกคนบ้านโน้น)
นักร้อง: Pause, Clash
อาหารจานโปรด: ส้มตำปูปลาร้า, ต้มยำทะเล, กะเพราหมูไข่เจียว
คติประจำใจ: กลัวอะไรให้วิ่งเข้าใส่ (แต่กลัวงูวิ่งหนีอย่างเดียว ฮ่า ฮ่า)
กุมภาพันธ์ 22, 2007 ที่ 3:26 am
พี่ญาคะ ถ้าเป็นตัวอย่าง เด็กแบบที่ปอนด์ชอบ ไม่ให้ดูหรอก หวง 555555+
พี่จุ๋ม ขอบคุณมากๆค่ะ ไว้ลุ้นตำแหน่งที่ 100 ที่นี่ให้พี่จุ๋มละกันเน้อ
พี่แขก ทำไมผู้ชายชอบสีเทากันจัง พี่ชาย เพื่อนๆ ชอบกันทั้งนั้นเลย (ห้ามตอบว่าก็ทำนองเดียวกันกับที่ผู้หญิงชอบสีชมพูนะ หุ หุ)
ไอดอล(ที่บ้านนู้น) จะไปแล้วนะ รู้สึกเหงา+ใจหายยังไงไม่รู้เนอะ
แล้วเนี่ย หญิงเพี้ยนอยู่ที่หนาย… นะ กลับมาด่วน
😀
กุมภาพันธ์ 22, 2007 ที่ 4:37 am
รู้สึกนิ้วกลมจะฮิตจริงๆซะด้วย
แต่แปลกใจที่พี่แขกชอบclashค่ะ
อยากรู้เหตุผลจัง
ขอบคุณเพื่อนคุณปอนด์ด้วย ปลื้มจังค่ะ
พูดถึงการกินเด็ก อยากจะเขียนเรื่องความรักเลยนะเนี่ย
ช่วงนี้เรื่องหมด มีแต่เรื่องความรู้สึกล้วนๆ กลัวว่าจะคิดคนเดียว
(เดี๋ยวคนอื่นไม่อิน)
กุมภาพันธ์ 22, 2007 ที่ 7:46 am
ตกใจหมดเลย ..นึกว่าเข้าผิด
ญ.เพี้ยน บ้านนี้นิยมกินเด็กกันหรอเนี่ยะ
เนื้อหวานๆ นุ่มๆ น่าสนใจ
ชอบกินสปาเก็ตตี้…อย่างนี้ต้องกินเด็กฝรั่งป่าวค่ะ
กุมภาพันธ์ 22, 2007 ที่ 10:24 am
คิดถึง+ใจหาย เหมือนกันแหละปอนด์
แต่คุยกับเพื่อนบ้านบางคนไว้ว่า
จะช่วยดูแลบ้านพักฯให้ชั่วคราวก่อน ไม่ให้หยากไย่ขึ้น
หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์บ้านสีขาวกลายเป็นเทาไปซะก่อนนะ
แปลกใจเหมือนกันที่พี่แขกชอบ clash
แต่อย่างว่าแหละ รู้หน้าไม่รู้ใจเนอะ
จะมีใครสนับสนุนความเห็นเรามั้งมั้ยน้อ
หญิงเพี้ยน เขียนมาเถอะพวกพี่ช่วยอ่านช่วยเม้นอยู่แล้ว
เหงาใช่เปล่า ถ้าเหงาพวกเราก็มานั่งเล่นคุยกันในบ้านนี่แหละ
พวกพี่ก็เดินเข้าบ้านโน้น+ออกบ้านนี้ เป็นประจำ
ช่วงนี้บ้านโน้นเจ้าของบ้านไม่อยู่
เดี๋ยวพวกเรามาดูแลเจ้าของบ้านนี้แทนไปก่อนละกันนะ
พวกเราจะช่วยดูแลกัน-และ-กัน จริงมั้ย 😀
ปล…ระหว่างนั่งกินข้าวเย็นเมื่อวานได้กฎการกินเด็กมาโดยบังเอิญอีก 2 ข้อล่ะ
ข้อ 1… ต้องเลือกอย่างระมัดระวัง เพราะกระดูกอ่อน อาจติดคอได้
ข้อ 2… ต้องไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น เดี๋ยวงูจะเลื้อยหนีไปซะก่อน
ข้อ 3… ห้ามกินมูมมาม ต้องค่อยๆละเมียดละไม ไม่งั้นเด็กอาจจะ
ตกใจ วิ่งหนีไป อดกินได้
ข้อ 4… อย่าใจร้อนเป็นอันขาด ต้องปล่อยให้เด็กเติบโตบ้าง แต่ต้อง
คอยสอดส่องอยู่เสมอ
ข้อ 5… อย่ากินเด็กมากนัก เดี๋ยวจะอ้วน!!
ข้อ 6… เลือกเด็กที่บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา เพราะจะกินได้อย่างไม่ลำบากนัก
ข้อ 7…ต้องเป็นผู้ใหญ่ ‘เป๋าตุง’ เด็กจึงจะสนใจ
ข้อ 8…ต้องพยายาม ‘แอ๊บเด็ก’ อยู่เสมอ มิฉะนั้นเด็กอาจเมินได้
อีกสองข้อก็จะครบสิบแล้ว
เหมือนเด็กเอ๋ยเด็กดีต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกันเลยเนอะ 😀
กุมภาพันธ์ 22, 2007 ที่ 11:58 am
หญิงเพี้ยน เขียนมาเล้ย ถือเป็นการเล่า+ปรับทุกข์ให้เพื่อนฟังกันนะ
คุณฤดูฝน ……ถ้าได้ก็ดี เอ๊า..
แหม พี่จุ๋ม ข้อ8-9 เนี่ย สัจธรรมมาเองเลยน้า….ฮิฮิ เริ่มเชี่ยวๆ
ถ้างั้น เรามาพยายามช่วยกัน ปัด กวาด ดูแล ทั้งบ้านโน้น บ้านนี้ ด้วยกันนะคะ
กุมภาพันธ์ 23, 2007 ที่ 1:29 pm
ปอนด์ : ทำไมผู้ชอบสีเทากันจัง?
ไม่รู้(วะ) รู้แต่ที่ชอบเพราะขรึมดี ไม่หวือหวา แต่เท่!
จ้าหญิเพี้ย, จุ๋ม : พี่ชอบ clash เนี่ย น่าแปลกใจตรงไหนเหรอ?
แล้วทำไมชอบ pause ไม่แปลกใจ
กลายเป็นพี่สงสัยในความแปลกใจอ่ะ
แต่ที่ชอบ clash เพราะเค้าร้องได้อารมณ์มั่กๆ
ซึ้ง มันส์ หนักแน่น ได้ใจโจ๋
เอ…หรือว่า image อ้าย contrast กับ clash อย่างแรง
ปล.สาวๆบ้านนี้ขยันกินเด็กกันจังฮะ อย่าลืมทำงานบ้านนะคับ
กุมภาพันธ์ 25, 2007 ที่ 5:50 am
…กินเด็ก มันผิดตรงไหน ชีวิตฉันใครกำกับ
กินเด็ก ใครจะยอมรับ บทบาทให้ความสำคัญ
ต่างกันแค่เพียงช่วงวัย ใจเราก็เหมือนๆ กัน
ฉันก็เป็น..แค่คนกินเด็ก…
5555 คิดกฏไม่ออกอ่ะ แป่วววว เพลงพาไป แต่ก็ไม่ได้ชอบกินขนาดนั้นนะ กลัวติดคอ 5555 ว่าจะเปลี่ยนไปกินคนแก่มั่ง อิอิอิ
กุมภาพันธ์ 26, 2007 ที่ 5:20 am
เหอ เหอ 😀
กุมภาพันธ์ 26, 2007 ที่ 9:45 am
พี่แขกกับแคลช contrast กันอย่างรุนแรง
แต่ยอมรับนะว่าเพลงเพราะดี
แต่วัยเรา พอสน่าจะเวิร์กกว่ามั้ง
ปล่อยแคลชไว้ให้เด็กๆเค้าชื่นชมเหอะ อิอิ
ปล..เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาเด็กละลานตาไปหมดเลย
ทั้งที่ playground และ จตุจักร สดชื่นสดชื่น 😀
ปลล..เจ้าหญิงฯ วันเสาร์ที่ผ่านมาเราเจอกันหรือเปล่าจ้ะ
คลับคล้ายคลับคลา เหมือนเราจะหายใจอยู่ในห้องเดียวกันนะ 😀
กุมภาพันธ์ 26, 2007 ที่ 11:00 am
ตะกี้มีคนรู้จักช่วยคิดกฎการกินเด็กข้อ 9 ให้อีกแล้ว
ทายซิอะไร (อยากขำ แต่ขำไม่ออกอ่ะ)
‘ต้องพึ่งไสยศาสตร์’
คนช่วยคิดเป็นผู้ชายนะเนี่ย
กุมภาพันธ์ 26, 2007 ที่ 2:40 pm
5555 หมอจุ๋ม เราตามมาขำ 55555 ไสยศาสตร์ ท่าทางจะจริง
เราคิดไม่ออกจริงๆ …
เลยกินเด็กไม่สำเร็จสักที ^^”
เปลี่ยนใจไปกินคนแก่ดีกว่า หุหุหุ
กุมภาพันธ์ 26, 2007 ที่ 3:24 pm
ทำยังไงดี
คิดไม่ออกเลยซักข้อ
ว่าแล้วเลยไม่เคยกินเด็กสักที
แล้วกินคนแก่ดีกว่าจริง ๆ เหรอค่ะพี่เอี้ยง
จะได้ลองกินดูมั่ง…อิอิ 😀
กุมภาพันธ์ 27, 2007 ที่ 7:28 am
กำลังทดสอบ “กินคนแก่” จ้า
ได้ผลยังไงแล้วจะมาเล่าให้ฟังเน้อ น้อง yayaa
อิอิอิ
มีนาคม 1, 2007 ที่ 6:51 am
เอ่อ! จะผิดมั้ยเนี่ยถ้าจะช่วยคิดกฎฯ ให้อีกซักข้อ
(จะได้ครบ 10 ข้อซะที)
มีเสียงแว่วๆเข้าหูมาอีกแล้ว จากผู้ชายสูงวัยคนนึง
เด็กที่ดีต้องมีโครโมโซม XY (แมนเต็มร้อย)
แหมข้อนี้ตอนนี้หายากเหมือนกันนะ
รู้สึกคนรอบตัวมักจะแมนไม่ค่อยเต็มร้อยเลยอ่ะ
ขอรวบรวมกฎการกินเด็กระลอกสองดีกว่า…
ข้อ 1… ต้องเลือกอย่างระมัดระวัง เพราะกระดูกอ่อน อาจติดคอได้
ข้อ 2… ต้องไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น เดี๋ยวงูจะเลื้อยหนีไปซะก่อน
ข้อ 3… ห้ามกินมูมมาม ต้องค่อยๆละเมียดละไม ไม่งั้นเด็กอาจจะ
ตกใจ วิ่งหนีไป อดกินได้
ข้อ 4… อย่าใจร้อนเป็นอันขาด ต้องปล่อยให้เด็กเติบโตบ้าง แต่ต้อง
คอยสอดส่องอยู่เสมอ
ข้อ 5… อย่ากินเด็กมากนัก เดี๋ยวจะอ้วน!!
ข้อ 6… เลือกเด็กที่บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา เพราะจะกินได้อย่างไม่ลำบากนัก
ข้อ 7…ต้องเป็นผู้ใหญ่ ‘เป๋าตุง’ เด็กจึงจะสนใจ
ข้อ 8…ต้องพยายาม ‘แอ๊บเด็ก’ อยู่เสมอ มิฉะนั้นเด็กอาจเมินได้
ข้อ 9…ต้องพึ่งไสยศาสตร์
ข้อ 10…เด็กที่ดีต้องมีโครโมโซม XY (แมนเต็มร้อย)
มีนาคม 1, 2007 ที่ 7:04 am
ตอนนี้รู้สึกบ้านโน้น+บ้านนี้ เหงาๆเนอะ
เรามาหา…ยันต์กัน(แก้)เหงา…
กันดีกว่าเนอะน้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ
ของตัวเอง สิ่งที่ทำให้หายเหงาได้ มีหลายอย่างมาก (หลายใจนิดนึง)
1.การอ่านหนังสือ (ที่ไม่เน้นวิชาการ)
นักเขียนคนโปรด ตอนนี้ก็มีพี่จิก หนุ่มเมืองจันท์ และก็นิ้วกลม
อ่านอะไรก็ได้ ขอให้ได้ยิ้ม 😀
2.ฟังเพลง
เพลงมีให้เลือกฟังเยอะมาก แต่ถ้าเป็นเพลงเกี่ยวกับความเหงาจะอินมากหน่อย จนถึงขั้น ‘เหงากำเริบ’ ได้ ฉะนั้นถ้าใจไม่แข็งพอ ไม่ควรฟัง
3.ท่องเที่ยว
ไปในที่อยากไป ไปกับคนที่อยากไป แค่นี้ก็หายเหงาแล้วล่ะ
บางครั้งที่ที่จะไปอาจลอยๆฝากอยู่ในอากาศก็ได้ จริงมั้ย 😀
ตอนนี้คิดได้เท่านี้ ใครมีอะไรมาเล่นสนุกๆ ก็มาเติมต่อกันได้นะ อย่างน้อยก็ช่วยคลายเหงา
มีนาคม 1, 2007 ที่ 7:21 am
เจ้าหญิงฯ คะ
มาช่วยพี่จุ๋มแก้ เจ้าตัว “เหงา” ออกไปจากใจแกหน่อยเร้วววว ใครก็ได้มาช่วยๆ กันนะคะ ^_^
ช่วงนี้ป้าเอี้ยง ยุ่งมากกกก จนตัว “เหงา” มันเกาะไม่อยู่เลยจ้า….
*เรื่องกฏ 10 ข้อ เราว่าเราเข้าข่ายนี้มากเลยนะ
สามารถปฏิบัติได้ดี… โดยเฉพาะข้อ 8 อิอิอิอิ
มีนาคม 1, 2007 ที่ 9:11 am
รู้สึกเอี้ยงจะคล่องนะเรื่อง..กฎ 10 ข้อ
สำหรับเราน่ะเหรอ
ทั้งหมดทั้งมวล ขอให้ผ่านข้อ 10 ข้อเดียว เราก็พอใจแล้วล่ะ
อย่างที่บอก ผู้ชายที่ชะตาต้องกันของเรา
มักจะมีโครโมโซม XY
แต่การแสดงออกมักตรงกันข้ามกับโครโมโซมอ่ะ (เซ็ง !!)
มีนาคม 1, 2007 ที่ 9:42 am
อ้าวจุ๋ม “ผู้ชายที่ชะตาต้องกันของเรา” นี่ยังเรียกว่าโชคดีนะ
ส่วนเรา ตลอด 10 ปีมานี้ เพื่อนมักบอกว่า คนที่เราไปถูกชะตาและขอสมัครเป็น…
เค้ามักมีโครโมโซม XY
ที่สำมะคัญ เค้าไม่ใยดีเราเลยอ่ะ เซ็งงงง!!!!
มีนาคม 1, 2007 ที่ 5:43 pm
อ้าววว…
ครบสิบข้อแล้วเหรอค่ะ
อดกินเด็กด้วยคนเลย 555 😀
มีนาคม 3, 2007 ที่ 3:52 am
😀
มีนาคม 3, 2007 ที่ 5:59 am
ส่วนที่เราเจอดูภายนอกเหมือนจะเป็น xy
แต่พฤติกรรมยังน่าสงสัย 555
ว่ามั๊ยพี่จุ๋ม
😀
มีนาคม 3, 2007 ที่ 6:30 am
ญาญ่าพูดถึงใครอ่ะ
ก็รู้ๆอยู่ว่า ผู้ชายที่ชะตาต้องกันของเราทั้งคู่น่ะเป็นยังไง
เสียดายล่ะซิ
พูดแล้วยังเสียดาย ‘ใครคนนั้น’ ไม่หายเลยล่ะ
ท่าทางหลายๆคนพากันงง ไม่ต้องงงนะ
อันนี้เป็นคำบ่นของคนที่ยังไม่ได้กินทั้งเด็ก & คนแก่ น่ะ
มีนาคม 7, 2007 ที่ 10:04 am
นี่ขนาดยังไม่ได้กินทั้งเด็กและคนแก่
กลุ่มเพี้ยนยังอวบกันขนาดนี้
ถ้าได้กินเด็กสักคนจะขนาดไหน…
😛
มีนาคม 7, 2007 ที่ 2:12 pm
วันนี้ไปฉลองโดยการกินเด็ก (ทางสายตา)
อิ่มอกอิ่มใจมากๆ เลยขอบอก 😉
มีนาคม 8, 2007 ที่ 10:04 am
พี่จุ๋มกินไปแล้วเหรอค่ะ
อิ่มแล้ว!!!
งัน…อย่านี้ก็ขาดคู่แข่งไปอีกคนสิค่ะ
555
😀
มีนาคม 8, 2007 ที่ 10:39 am
ถ้าจะบอกญาญ่าว่าอิ่มไปครึ่งกระเพาะ (เพราะเผื่อที่ไว้เผื่อใครบางคน)
ก็ดูจะหน้าเกลียดเกินไป
เข้าใจถึงคำ ‘อิ่มปากอิ่มท้อง’ และก็ ‘อิ่มอกอิ่มใจ’เลยล่ะ
งั้นคู่แข่งคนนี้ขอสละสิทธิ์ให้เพื่อนๆที่เหลือละกัน;)
มีนาคม 8, 2007 ที่ 2:50 pm
ยังไงกันเนี่ย
พี่จุ๋ม พี่ญา มี’เด็ก’ ไว้กินเป็นของตัวเองแล้วเร้อ
หุ หุ
มีนาคม 8, 2007 ที่ 4:03 pm
เปล่าค่ะน้องปอนด์
แค่เห็นบางคนกินแล้วนึกอิจฉา
พี่ว่าอย่างพี่ไม่กินเด็กหรอกค่ะ
กลัวเด็กเรียก “ป้าญา” อิอิ
แต่ถ้าน้องปอนด์อยากลองชิมบ้าง
ลองขอพี่จุ๋มซักคนสิค่ะ
( รู้สึกว่าจะมีน้องเบอร์ 1, 2, 3, 4, 5,…
กระดูกอ่อน ๆทั้งน้านจริงมั๊ยค่ะพี่จุ๋ม อิอิ)
มีนาคม 8, 2007 ที่ 4:05 pm
ไชโย
ใกล้ร้อยแล้วค่ะหญิงเพี้ยน
แต่พี่สละสิทธิ์เบอร์ 100 ก็ได้ค่ะ
ขอเป็นเบอร์ 99 ก็พอ…อิอิ
มีนาคม 8, 2007 ที่ 5:33 pm
ไชโย !!!
หลังจากหลุดตำแหน่งเม้นที่ร้อยของบ้านโน้นมาหลายห้อง
ในที่สุดตำแหน่งนี้ก็อยู่ในมือข้าพเจ้าจนได้
ขอบคุณคนที่สละสิทธิ์ให้ด้วยนะ
งั้นวันนี้เราก็ไม่เหนื่อยฟรีแล้วล่ะซิ
ตอนนี้เด็กในคอนโทรลเริ่ม stable แล้ว
เลยมีเวลามาชิงตำแหน่งเม้นที่ 100 แล้วก็สมใจจนได้
ฝากบอกญาญ่า..การเจอน้องชายเบอร์ 1 ไม่รู้ใครลิขิตอ่ะ
อาจจะเป็นด้วยแรงอธิษฐานของพี่ก็ได้
เอ๊ะ! หรือดวงของพี่กับน้องเค้าจะสมพงศ์กัน
เดี๋ยวคงต้องไปพิสูจน์กันอีกหลายๆมื้อแล้ว อิอิ
มีนาคม 8, 2007 ที่ 6:38 pm
เย้ เย้
วู้ วู้ วู้
ฮิ้ว
100
ต้องขอบคุณวิธีกินเด็กเลยนะเนีย
555
มีนาคม 10, 2007 ที่ 2:04 pm
ยินดีด้วยค่า พี่จุ่ม 🙂
มามะ มาลุยให้ทะลุ 200 กัน
(เอ๊า!)
😀
มีนาคม 12, 2008 ที่ 9:30 am
เจ้าหญิงเพี้ยนน่ารักหรือเปล่าอยากเห็นหน้าจัง
นี่คือเรื่องของเรา 5 เรื่องนะ
1. ความภาคภูมิใจในชีวิต
เมื่อตอนที่เราอยู่ ป.5 เราเคยเข้าประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับประเทศแล้วได้รางวัลด้วยล่ะ เราได้รางวัลที่1 ระดับประเทศของระดับประถม โครงงานวิทยาศาสตร์ของเราชื่อว่า ปุ๋ยหมักธรรมชาติจากเศษผักและผลไม้ พอได้รับรางวัลก็ต้องโชว์ผลงานที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่จ.อยุธยา ตื่นเต้นมากเลยล่ะ นี่แหล่ะคือสิ่งหนึ่งที่เราทำเพื่อได้
2.คนรักคนแรก
คนรักคนแรกของเรานะก็ตอนที่เราอยู่ ม.1 แล้วพี่เค้าอยู่ ม.4 เค้าเป็นคนน่ารัก เราคบกันได้ไม่นานเพราะเราต้องย้ายมาอยู่กับแม่ที่ระยอง เฮ้อ เศร้าจัง แต่เราก็ยังติดต่อกันอยู่แต่พี่เค้าก็กหายเงียบไป แต่เราก็ไม่โกรธเค้าหรอกนะอาจเป็นเพราะเราห่างกันเกินไปก็ได้ ถ้าเจอเค้าก็อยากบอกว่า ”ยังรักเหมือนเดิมนะ”
3.ความทรงจำที่ไม่อาจลบเลือน
เมื่อเราย้ายมาอยู่ระยองกับแม่ เราก็ได้พบกับคนๆ หนึ่งเค้าเป็นคนดีมากแต่เค้าเป็นทอมนี่สิ แต่ก็ไม่รูเพราะอะไรเราถึงคบกับเค้าในฐานะแฟนมาได้ ตั้ง 3 ปีแน่ะ แต่เวลา 3 ปี คงไม่มีค่าเลยสำหรับเค้าเมื่อเรา 2 คนต้องไปเรียนต่อหลังจากจบมัธยมแล้ว นี่เป็นการนอกใจเราครั้งแรกตั้งแต่เค้าคบกับเรามา เค้ามีคนใหม่เพียงแค่ 1อาทิตย์เค้าก็มาบอกเลิกกับเรา เราบอกว่าเรารักเธอมากนะ เค้าก็ขอเวลาเรา 3 เดือนแต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอม เราก็เลยให้เค้าเลือก แล้วเค้าก็เลือกคน “ใหม่” เราจากกันโดยไม่มีคำร่ำราใดๆ เลย
4.รักไม่ยุ่งมุ่งแต่เรียน
เพราะคตินี้แหละจึงทำให้เราตั้งใจเรียนจนได้เกียรตินิยมแล้วได้ทุนเรียนฟรีจำนวน 3 ปี ดีใจจริง
5.การเติมความสุขให้ชีวิต
เราควรเลือกทำในสิ่งที่เราอยากทำมากที่สุดในแต่ละวัน เลือกทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าทำแล้วมีความสุขที่สุด เรานะ ชอบอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น แล้วก็ปลูกดอกไม้ในช่วงวันหยุด ผ่อนคลายดีนะลองทำดูสิ
ปล. อยากเป็นเพื่อนกับทุกคนนะคะ
เมษายน 13, 2009 ที่ 4:54 pm
อื้มมม
เห็นว่าหน้านี้คล้ายจะเบนไปในทางกินเด็กซะมาก
เลยอยากจะให้วกกลับมาในทางของมันอีกครั้ง
1. นักวางแผนมือฉกาจ!!!
ฉันเป็นนักวางแผน และแผนการของฉันมักจะได้รับการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมแก่สถานการณ์อยู่เสมอ อะไรบ้าง? เมื่อฉันเรียนจบชั้นปี ฉันจะคิดต่อไปว่าอนาคตของฉันจะเป็นอย่างไร (จะเรียกกันว่าฝันก็ไม่เชิง ความจริงแล้วมันเป็นการวางแผนไว้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ฉุกละหุก คว้าไม่ทันขึ้น)
2. ยุคแห่งชีวิต
เรื่องราวของความเอ็นเตอร์เทนในชีวิตของฉัน มักจะแบ่งออกเป็นยุคๆ (ยิกๆ) สลับกันไประหว่าง ดนตรี และ หนังสือ ในวัยเด็กนั้น พ่อบอกฉันว่า ฉันชอบอ่านหนังสือนิทานมาก และมีสะสมไว้ในครอบครองเป็นจำนวนมาก พ่อเล่าว่า ฉันไปร้านหนังสือกับพ่อ และเลือกหนังสือนิทานมาทั้งหมด 50 เล่ม พ่อแบ่งมันออกเป็น 2 กอง กองหนึ่ง 24 เล่ม และอีกกองหนึ่งมี 26 เล่ม แล้วพ่อก็ถามฉันว่า ‘ลูกอยากได้กองไหน’ ฉันตอบไปว่า ’26 เล่ม’ ..พอฉันเริ่มเข้าสู่วัยกำลังจะรุ่น ก็จำได้ว่าตัวเองชอบฟังเพลงมาก เงินของฉันส่วนใหญ่จะหมดไปกับเรื่องเพลงๆ และฉันก็ชอบฟังเพลงเกือบทุกแนว ยกเว้นเพลงหนักๆ ที่ฟังเท่าไหร่ก็ยังรำคาญหูเสียมากกว่า ..เมื่อฉันเรียนมหาวิทยาลัย ก็พบว่าตัวเองกลับมาอ่านหนังสืออีกครั้ง ในหลายๆ แนวของหนังสือ ฉันพบว่า จุดเริ่มต้นนั้นมาจาก ‘ความจำเป็น’ที่ต้องอ่านหนังสือเรียนตลอดเวลา ทำให้ฉันรู้สึกเบื่อบ้างในบางครั้งที่ต้องศึกษาคดีเป็นเวลานานๆ ฉันจึงหันมาจับการ์ตูนโคนัน ซึ่งเคยซื้อหามาไว้อ่าน เอามานั่งอ่านอีกครั้ง ก็พบว่า เป็นทางแก้เบื่อที่ดีมาก แล้วก็ลามไปถึงหนังสือต่างๆ ที่มีเนื้อหาน่าสนใจ
ฉันพบว่า ตอนนี้ ฉันกำลังสนใจหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการพัฒนาสมอง เพิ่มความจำ หรืออะไรทำนองนั้นอยู่บ้าง
3. ไม่เคยวัยรุ่น
วันหนึ่ง ฉันกำลังเล่นอยู่กับสุนัขแสนรักของฉัน แล้วอยู่ๆ พี่ชายก็โพล่งขึ้นมา ‘น้องหมากำลังเล่นกับผู้หญิงซึ่งอยู่ในช่วงเวลาวัยรุ่นตอนปลาย’
ตอนปลายยย!!!!! ตอนปลายงั้นเหรอ ฉันยังไม่รู้สึกว่าฉันเป็นวัยรุ่นเลย แล้วจะเป็นวัยรุ่นตอนปลายได้ไง นั่นหมายความว่า ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กตลอดเวลา 555 แล้วฉันก็กลายเป็นผู้(เกือบ)ใหญ่เลย
4. รัก รัก รัก
ฉันเคยมีความรัก และฉันกำลังมีความรัก ฉันชอบเห็นคนรักกัน ฉันไม่ชอบเห็นคนบึ้งตึงใส่กัน คนที่ได้รับสิ่งนั้นคงหดหู่ไม่น้อยย ความรักที่ว่า ไม่ได้หมายความถึง ช รัก ญ แบบที่ ช คนนึงจะรักได้ หรือ ญ รัก ช คนนึงอย่างที่ ญ คนนึงจะรักได้ แต่หมายรวมถึงความรักที่เกิดขึ้นกับทุกๆ สิ่งในโลกนี้
แม้ว่าฉันจะไม่ปรารถนากับความเสียใจเท่าไหร่ แต่ฉันก็เคยประสบพบเจอมันอยู่บ้าง จนสุดท้ายแล้วฉันเลือกที่จะมีความสุขอย่างเดียว เมื่อสุขจนถึงที่สุดแล้ว ฉันก็จะจากไป ไม่รอให้พบกับความเสียใจอีก ไม่รู้ว่าฉันเลือกผิดไหม
5. General
ฉันชอบสีเขียวสดใส (นึกออกไหมว่าคือสีอะไร) ฉันว่ามันไม่เกี่ยวกับที่ฉันเกิดวันพุธหรอก ; ตั้งแต่เกิดมาฉันว่าฉันชอบกิน ผัดซีอิ๊วเส้นหมี่เหลือง ไม่ใส่ผัก มันเหมือนอาหารเกาหลีที่เรียกกันว่า ชาจังเหมี่ยนมาก แต่ต้องเป็นฝีมือของป้าแดงร้านตรงข้ามบ้านนะ เพราะที่อื่นทำไม่เหมือนชาจังเหมี่ยน นอกจากนี้ฉันยังชอบกิน ราดหน้ารวมมิตร ผักใส่แค่ใบคะน้าอย่างเดียว แล้วก็ยังชอบกินข้าวมันไก่ กระเพาะปลา ที่ร้านบุหลันใกล้ๆ คาร์ฟูอีกด้วย ถ้าเป็นไอศกรีมแล้วก็ต้องรส สตรอเบอรี่ นะ อาหารอีกอย่างหนึ่งที่เพิ่งจะเข้ามาอยู่ในใจฉันก็คือ เกี๊ยวกุ้ง ฉันว่าฉันชอบกินซีฟู้ด ติ่มซำ เป็ดย่างเอ็มเค เอ๊ะ! มันเยอะไปหละ มีชอบอีกเยอะเลย แต่เอาไว้ก่อน
อ้อ ฉันมีความฝันว่าอยากไปเที่ยวรอบโลก อย่างสัมผัสกับหิมะจริงๆ ซักที ที่ไม่ใช่หิมะปลอมๆ อย่างที่ดรีมเวิลด์ และเมื่อฉันได้รู้จักกับคุณเอ๋ ฉันก็พบว่า ฉันอยากไปเที่ยวแบบนั้น แบบที่เรียกกันว่า ‘Backpack’ ฉันค้นพบว่าการไปเที่ยวแบบคนน้อยๆ แค่มองหน้ามองตากันก็อ๋อ ก็เออ กันมันสนุกดี
มีอีกหลายเรื่องราวที่อยากบอก แต่นี่มันก็พอสมควรแล้ว ไว้เราค่อยเล่าให้ฟังใหม่ 😛